วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2561

                             
       24. แกงลาวเห็ดเผาะไข่มดแดง

       ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แกงเห็ดเผาะ
      เข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการ อาหารที่มากในช่วงนี้ก็คือ เห็ดเผาะ ที่ขึ้นกันอย่างรวดเร็วเมื่อเจอสายฝนคนที่ชอบกินเห็ดเผาะมักจะรอเวลานี้มานานแสนนานความกรอบของเห็ดจึงเข้ากับเมนูแสนพิเศษอย่าง แกงลาวเห็ดเผาะไข่มดแดง น้ำแกงกลมกล่อมที่ซึมเข้าไปในเห็ดเผาะ เวลาเคี้ยวจะรู้สึกเหมือนน้ำแตกอยู่ในปาก
ส่วนผสม
  • หั่นเห็ดเผาะให้สะอาดแล้วผ่าครึ่ง 2 ขีด
  • ไข่มดแดง 1 ขีด
  • น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ทัพพี
  • ชะอม ผักหวาน เห็ดสามอย่าง
  • น้ำใบย่านาง (หากหาไม่ได้ใช้น้ำต้มกระดูกหมูก็ได้ค่ะ)
  • ซีอิ๊วขาว
  • เกลือ
วิธีทำ
  1. ต้มน้ำใบย่านางให้เดือด ใส่เห็ดเผาะ และเห็ดสามอย่างลงไป ต้มจนเห็ดสุก
  2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือและน้ำปลาร้า (ใส่ซีอิ๊วขาวขาวและเกลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเดี๋ยวจะเค็มเกินไป พร้อมกับชิมรส
  3. ตามด้วยผักต่างๆ ที่เลือกนำมาทำ เช่น ชะอม ผักหวาน ที่เป็นผักสำคัญที่ขาดไม่ได้
  4. และตามด้วยไข่มดแดงเทลงไปในหม้อ ต้มไปสักพักแล้วตักขึ้นใส่ชามเสิร์ฟ
มาดูวิธีการทำกันเลย

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

23.ก้อยไข่มดแดง


ส่วนผสม
  • ไข่มดแดง               300 กรัม
  • หัวหอมซอย            7 - 8 หัว
  • น้ำปลาร้า ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา     ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว                ช้อนชา
  • พริกแห้งป่น            1.5 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่วป่น                ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมหั่นฝอย ช้อนโต๊ะ
  • ใบสะระแหน่          5 - 6 ต้น (เด็ดเป็นใบ)

วิธีทำ
  • นำไข่มดแดงล้างให้สะอาดใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ ใส่อ่างผสม
  • นำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ใส่พริกแห้งป่น ข้าวคั่วป่น หัวหอมซอย ต้นหอมหั่นฝอยชิมรส ตักใส่จานโรยหน้าด้วย ใบสะระแหน่และพริกชี้ฟ้าสด

ผักเครื่องเคียง
  • ผักที่นิยมรับประทานเป็นเครื่องเคียงได้แก่ ผักกะโดน เม็ก ติ้ว หนอก (บัวบก) มะเขือถั่วฝักยาว แตงกวา และอื่น ๆ
หมายเหตุ
  • ส่วนผสมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
มาดูวิธีการทำกันเลย










  22.แจ่วบอง
        
   แจ่วหรือ น้ำพริก เป็นอาหารที่ชาวอีสานนิยมรับประทานกัน  เพราะทำได้ง่ายมีเครื่องปรุงไม่มากนัก  แค่มีพริกและปลาร้าในครัวก็สามารถทำแจ่วได้แล้ว  ด้วยความที่ทำได้ง่ายจึงจะพบว่าอาหารของชาวอีสานเกือบทุกมื้อจะต้องมีแจ่วเป็นอาหารหลักๆน่นอน  ชาวอีสานนิยมรับประทานแจ่วกับผักที่เก็บได้จากรั้วบ้าน  หรือกับพวกเนื้อย่าง  ปลาย่าง หรือนึ่ง  ปัจจุบันถึงแม้วิถีชีวิตของชาวอีสานจะเปลี่ยนไปแต่อาหารต่างโดยเฉาะแจ่วไม่ได้เสื่อมความนิยมลงไปเลย  เพราะเหตุนี้เราจึงหาทานแจ่วแบบอีสานได้ทั่วๆไป


เครื่องปรุง
  • รากผักชี 
  • ตะไคร้เผาพอหอม
  • ปลาร้าสับละเอียด
  • น้ำมันพืช(ไม่ใช้ก็ได้-ใช้น้ำเปล่าแทนได้)
  • น้ำมะขามเปียก-ข้น 
  • ข่าเผาซอย 
  • พริกป่น 
  • ปลาป่น
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ผักสดตามชอบ

วิธีทำ
   1.โขลกรากผักชี ตะไคร้ ข่าให้ละเอียดใส่กระเทียม หอม โขลกต่อให้ละเอียดใส่พริกป่นปลาร้า โขลกต่อให้เข้ากัน
   2. ตั้งกระทะไฟอ่อนใส่น้ำมันพร้อมใส่ส่วนผสมผัดใส่น้ำปลาร้าน้ำ  มะขามเปียกน้ำตาลผัดจนหอมจึงตักขึ้นรับประทานกับผักสดผักนึ่ง ถ้าไม่ชอบปลาร้าใส่น้ำปลาก็ได้
  
 
 เคล็ดลับ
  •     ควรใช้ปลาร้าที่เนื้อแน่นๆ

  คุณค่าทางอาหาร
  •     โปรตีนวิตามินเอ ซี โปรตีน  
มาดูวิธีการทำกันเลย


21.ไส้กรอกอีสาน
           ไส้กรอกอีสาน เป็นอาหารที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทำโดยนำเอาหมูบดมาผสมกับเกลือ กระเทียมสับหยาบ เคล้ากับข้าเหนียวนึ่ง กรอกลงในไส้หมู ผูกเป็นข้อ ๆ แขวนผึ่งลมไว้ เมื่อหมักไว้จะเกิดรสเปรี้ยว เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ย่อยเนื้อสัตว์ทำให้เกิดกรดแลกติก จึงเกิดรสเปรี้ยวขึ้น ยิ่งถ้าหมักไว้หลายวันจะเกิดรสเปรี้ยวมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นเมื่อมีรสเปรี้ยวแล้วจึงควรเก็บไว้ในตู้เย็นไส้กรอกอีสานทำให้สุกด้วยวิธีการทอดปิ้ง คั่ว รับประทานกับถั่วทอด ต้นหอม พริกขี้หนูสด ขิงดองหรือพริกขี้หนูแห้งทอด

    เครื่องปรุง  
  •  เนื้อหมูขาหลัง=1 กิโลกรัม
  • ไส้หมูไส้เล็ก=        500 กรัม
  • ข้าวเหนียวนึ่ง=       ถ้วย
  • กระเทียม100 กรัม
  • เกลือป่น=2 ช้อนโต๊ะ

    วิธีทำ  
      1.ล้างทำความสะอาดไส้ โดยดึงเอาเยื่อไขมันที่หุ้มไส้ออกให้หมด กลับเอาไส้ด้านในออก ล้างให้สะอาด ใช้ช้อนสังกะสีหรือมีดเล็กค่อย ๆ ขูดเอาเมือกออกให้หมดอย่าให้ไส้ขาด ล้างน้ำให้สะอาด เคล้าเกลือ ช้อนโต๊ะให้ทั่วล้างน้ำอีกครั้งให้สะอาด กลับไส้เหมือนเดิม
      2.ล้างเนื้อหมูให้สะอาดซับน้ำให้แห้ง หั้นเป็นชิ้นเล็ก บดเนื้อหมูรวมกับเกลือที่เหลือและกระเทียมให้ละเอียด ใส่ลงในอ่างผสมใส่ข้าวเหนียวนึ่งนวดให้เข้ากัน
      3.มัดปลายไส้ด้านหนึ่งด้วยเชือก ค่อย ๆ กรอกส่วนผสมใส่ไส้ มัดเป็นท่อน ยาวประมาณ 2นิ้ว ทำจนหมดส่วนผสม นำไปผึ่งแดดไว้ 2วัน ไส้กรอก จะมีรสเปรี้ยว เก็บใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น เเช่ไว้ในตู้เย็น ไส้กรอกก็จะไม่เปรี้ยวอีก
      4.วิธีรับประทานใช้ไม้แหลมจิ้มไส้กรอกเพื่อไล่อากาศ ทอดหรือย่างด้วยไฟกลางรับประทานกับพริกขี้หนูสด ขิงอ่อน กระเทียม ถั่วลิสงทอด และต้นหอม



มาดูวิธีการทำกันเลย

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

20. ยำขนมจีน

ตำข้าวปุ้น ยำขนมจีน อาหารไทย เมนูส้มตำ
อาหารยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารไทย อาหารอีสาน เมนูส้มตำ เรียก ตำข้าวปุ้น หรือ ยำขนมจีน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ อยู่ที่ เส้นขนมจีนเหนียวนุ่ม วัตถุดิบคุณภาพ น้ำยำรสเด็ด ยำขนมจีน อาหารอีสาน เมนูยำ กะปิ กุ้งแห้ง ยอดชะอม ยำกับขนมจีน อาหารเมนูเส้น ขนมจีนทำอะไรกินดี เมนูขนมจีน กับข้าวอีสาน เมนูส้มตำ
เมนูยำขนมจีน เป็น อาหารยอดนิยม เมนูอาหาร หนึ่ง จาก ขนมจีน นำมา ยำ รสชาติจัดจ้าน ส่วนผสมและวิธีทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบกิบ ยำ
ส่วนผสมสำหรับทำยำขนมจีน
  • ขนมจีน 3 จับ
  • กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต้ะ
  • พริกสด บด 2 ช้อนโต้ะ
  • กระเทียม บด 1 ช้อนชา
  • มะเขือเทศ หั่น 2 ลูก
  • ยอดชะอม 5-6 ยอด
  • กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต้ะ
  • ถั่วฝักยาวซอย หยาบๆ 3 ช้อนโต้ะ
วิธีทำยำขนมจีน
  1. โขรก พริก กระเทียม ถั่วฝักยาว ตำพอหยาบ จากนั้น ใส่ น้ำเชื่อม กะปิ และ น้ำมะนาว ลงไป ผสมให้ส่วนผสมน้ำยำละลาย จากนั้นใส่ขนมจีนลงไปคลุก
  2. ตามด้วย กุ้งแห้ง ยอดชะอม และมะเขือเทศ คลุกให้ส่วนผสมเข้ากัน
  3. เสริฟยำขนมจีน หรือ ตำขนมจีน อาหารอีสาน เมนูยำ กับข้าวง่ายๆ
เคล็ดลับความอร่อยของยำขนมจีน
  • ขนมจีน ให้ใช้ ขนมจีนเส้นสด หมัก และ ลวกสดๆ จะได้ เส้นขนมจีน ที่เหนียว นุ่ม ไม่แข็ง เหมือน เส้นขนมจีน ทั่วไป
  • น้ำยำขนมจีน ที่อร่อย จะทำให้ ขนมจีน อร่อย โดยให้ ปรุงน้ำยำ ไว้ก่อน และ ปรุงรส ให้ถูกใจก่อน ค่อยนำไป ผสมกับขนมจีน และ เครื่องเคียง เนื่องจากหากผสมไป ปรุงไป เส้นขนมจีน อาจช้ำและไม่น่ารับประทานได้
  • กุ้งแห้ง ที่ใช้ใน เมนูยำขนมจีน ให้ทำการล้างให้สารตกต้างออกให้หมด จากนั้นนำไปนึ่งอีก ให้กุ้งสุก เนื้อนิ่ม หากใส่ กุ้งแห้ง ไปเลย เนื้อ กุ้งแห้ง จะแข็งไม่น่ารับประทาน
  • ถั่วฝักยาว จะมีกลิ่นเหม็นเขียวของถั่วสด วิธีลดกลิ่นเหม็นเขียว ของ ถั่วฝักยาว ให้นำ ถั่วฝักยาว ไปลวกน้ำร้อนก่อน โดย ถั่วฝักยาว ที่ ทำยำขนมจีน ให้อร่อยให้ซอยบางๆ
  • พริกสด ที่ใส่ ยำขนมจีน ให้ใส่ พริก 2 ชนิด ผสมกัน คือ พริกขี้หนูสวน และ พริกชี้ฟ้า เนื่องจาก พริกขี้หนูสวน จะให้ความเผ็ด ส่วน พริกชี้ฟ้า ให้สีสันน่ารับประทาน
มาดูวิธีการทำกันเลย

19. ลาบพวงไข่ไก่

ลาบพวงไข่ไก่ อาหารไทย เมนูลาบ
ลาบพวงไข่ไก่ เป็น อาหารไทย เมนูลาบ นำพวงไข่ไก่ เป็น ไข่แดงในตัวไก่ไข่ นำมาต้มให้เป็น ไข่มะตูม นำมาผสมกับ เครื่องปรุงแบบลาบ ลาบ เป็น อาหารไทยยอดนิยม ได้ พวงไข่ไก่ มาผสมด้วย รสชาติมันๆ และ ความกลมกล่อมของลาบ ทำให้ เมนูลาบพวงไข่ไก่ เป็น สูตรอาหาร เมนูไข่ ที่ต้องลอง สูตรลาบพวงไข่ไก่ เป็น สูตรอาหารยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนรักอาหารไทย เมนูลาบ
ส่วนผสมสำหรับทำลาบพวงไข่ไก่
  • พวงไข่ไก่ 1 ถ้วย
  • ใบสาระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบหอม ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่ง ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • หอมแดง ซอย 3 ช้อนโต้ะ
วิธีทำลาบพวงไข่ไก่
  1. นำ พวงไข่ไก่ มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำ พวงไข่ไก่ ไปต้มให้สุก นำ พวงไข่ไก่ต้ม หั่นครึ่ง นำ พวงไข่ไก่ จัดใส่จาน เตรียมทำน้ำลาบ เพื่อราดบน พวงไข่ไก่
  2. เตรียม ทำน้ำลาบ ด้วยการใส่ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล พริกป่น และ ข้าวคั่ว ผสมให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน
  3. ใส่ ต้นหอม ใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ผสมใน น้ำลาบ
  4. ราดน้ำลาบบน พวงไข่ไก่ต้ม จัดจานให้สวยงาม พร้อมรับประทาน กับข้าวง่ายๆ เมนูลาบพวงไข่ไก่
เคล็ดลับการทำ ลาบพวงไข่ไก่
  1. พวงไข่ไก่ ใช้พวงไข่ไก่ที่สด ใหม่ จะได้ พวงไข่ไก่ ที่รสชาติอร่อย มันและเนื้อแน่น
  2. ล้าง พวงไข่ไก่ ให้สะอาด ไม่ให้เหลือความคาว มัน ล้างให้สะอาดด้วยน้ำเกลือ แช่พวงไข่ไก่ด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้ความเค็มซึมเข้าเนื้อไข่ เพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับ ไข่ไก่
  3. ต้มในน้ำเดือด ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีพอ อย่าต้มนาน กว่านี้ เพราะ เนื้อไข่จะแข็งเกินไป เสียรสชาติ
  4. ไม่ต้องคลุกน้ำลาบกับพวงไข่ไก่ต้ม เนื่องจาก จะทำให้ไข่แตก ไม่เป็นชิ้น
  5. พริกป่น ใช้ พริกขี้หนูแห้ง จะได้ รสเผ็ด ที่อร่อยมาก
  6. น้ำปลา ใช้ น้ำปลาอย่างดี หากใช้ หัวน้ำปลา ยิ่งอร่อย ทำให้มี ความหอมของน้ำปลา ด้วย
  7. ข้าวคั่ว ให้ใช้ ข้าวคั่วที่คั่วใหม่ สดๆ โดยให้ใส่ ใบมะกรูด ลงไปคั่วด้วย จะ ทำให้ข้าวคั่วมีความหอม มากขึ้นไปอีก
มาดูวิธีการทำกันเลย


18. ต้มแซ่บปลาคัง

ต้มแซ่บปลาคัง อาหารไทย เมนูปลา
อาหารไทย ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารอีสาน เมนูปลาคัง ปลาหนังน้ำโขง แสนอร่อยต้มแซ่บปลาคัง หรือ ต้มยำปลา สูตรอีสาน เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่ ปลาคังสดๆ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ วิธีทำต้มแซ่บปลาคัง ปลาคังทำอะไรกินได้บ้าง อาหาร เมนูปลาน้ำโขง อาหารสุขภาพ อุดมณ์ด้วย สมุนไพรต่างๆ อาทิ พริก กระเทียม มะนาว ผักชี ใบกระเพรา เป็นต้น รสเผ็ดร้อน เนื้อปลา หวานนุ่ม มี เคล็ดลับการทำอย่างไร
เมนูต้มแซ่บปลาคัง ทำอย่างไร ให้อร่อย อาหารไทย เมนูปลา เมนูปลาคัง วิธีทำง่าย วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก รสชาติอร่อย ดีต่อสุขภาพ ต้มแซ่บ อาหารพื้นบ้านอีสาน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับ คนชอบทำอาหาร เมนูปลา
ส่วนผสมสำหรับทำต้มแซบปลาคัง
  • เนื้อปลาคัง หั่นเป็นชิ้น 1 ตัว
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
  • กระเทียมดอง 2 หัว
  • น้ำกระเทียมดอง 2 หัว
  • กระเทียมสด 2 ช้อนโต้ะ
  • พริกสด 2 ช้อนโต้ะ
  • รากผักชี 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำซุปหมู 2 ถ้วยตวง
  • ผักชีซอย 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต้ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต้ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนโต้ะ
  • ใบกระเพรา 2 ช้อนโต้ะ
วิธีทำต้มแซ่บปลาคัง
  1. นำ กระเทียมดอง กระเทียมสด พริกสด รากผักชี มาโขรกหยาบๆ จากนั้นพักไว้ก่อน
  2. ต้มน้ำซุปให้เดือด จากนั้นใส่ส่วนผสมที่โขรกลงไป ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา น้ำกระเทียมดอง เกลือ และ พริกป่น จากนั้นชิมรสชาติ ให้ให้เค็มหวาน
  3. ใส่ เนื้อปลา ลงไปต้ม จากนั้นใส่ ใบกระเพรา และ ผักชีฝรั่ง ลงไป ปิดไฟและใส่ น้ำมะนาว ลงไปขั้นตอนสุดท้าย
  4. สามารถเสริฟรับประทานได้ เมื่อ เนื้อปลาสุก
เคล็ดลับการทำ ต้มแซบปลาคัง
  1. ปลาคัง เลือก ปลาสด ที่มีขนาด 4-5 กิโลกรัม
  2. ล้างปลาให้สะอาด ด้วยน้ำเกลือ และ ล้างให้ไม่เหลือเมือกลื่นๆ เนื่องจากส่วนนั้นเป็นส่วนที่คาว
  3. กระเทียมดอง เลือก กระเทียมดอง หัวใหญ่ๆ และขาวๆ
  4. การใส่เนื้อปลาให้ใส่เนื้อปลาตอนน้ำเดือด และ ไม่ต้องคลนหม้อ เนื่องจาก เนื้อปลาจะเละ
  5. ใส่ น้ำมะนาว ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากปิดไป และให้คัดเอาแต่น้ำไม่ให้มีเม็ดของผลมะนาว เนื่องจาก ความร้อนจะทำให้ น้ำมะนาวเสียรสเปรี้ยวเป็นขม และ เม็ดมะนาว เมื่อนำมาต้มจะ ขมมาก
มาดูวิธีการทำเลย

17.กบทอดกระเทียม

กบทอดกระเทียมพริกไทย อาหารไทย เมนูอาหาร เมนูทอด เมนูกบ
สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ ขอเนำเสนอ เมนูอาหารไทย อาหารจานเดียว แบบเบาๆ ด้วยวัตถุดิบแบบพื้นบ้าน คือ กบ หลายคนที่นิยมกินกบ จะรู้ว่าเนื้อกบนั้นอร่อย เหมือนเนื้อไก่ แต่กบไม่ใช่วัตถุดิบที่คุ้นเคยของคนเมืองสักเท่าไรนัก วันนี้เลยอยากจะนำเสนอ เมนูอาหาร แบบพื้นบ้าน อีกสักหนึ่งเมนูจากกบ เคล็ดลับความอร่อยของ กบทอดประเทียมพริกไทย นั้น คือ เนื้อกบที่สดๆ การปรุงรสชาติให้ได้ความหอมของกระเทียมและพริกไทย ที่สำคัญเทคนิคการทอด ทำอย่างไรให้เหลืองกรอบ และ เนื้อกบมีความนุ่มชุ่มซอสที่ปรุงรส เทคนิคและส่วนผสมของเมนูนี้ พร้อมให้ท่านได้ติดตามกันแล้ว
ส่วนผสมของกบทอดกระเทียมพริกไทย 
  • ขากบ 6 ขา
  • กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
  • พริกไทยป่น 3 ช้อนโต้ะ
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต้ะ
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมันพืช สำหรับทอด
  • ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า
  • แตงกวา สำหรับ ทานคู่กับกบทอดกระเทียมพริกไทย
  • ซอสพริก สำหรับทานคู่กับกบทอดกระเทียมพริกไทย
ขั้นตอนการทำกบทอดกระเทียมพริกไทย
  1. เตรียมขากบ โดยการล้างทำความสะอาดให้สะอาด ไม่ให้เหลือคราเลือด หรือ เมือกที่ตัวกบ ลอกหนังกบออกให้หมด
  2. หมักขากบด้วย ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ซอสน้ำมันหอย หมักเอาไว้ในตู้เย็นประมาณ 15-30 นาที
  3. จากนั้นนำมาคลุกกับ กระเทียมบด และ พริกไทยป่น ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน หมักอีกสัก 15 นาที จากนั้นจึงใส่แป้งข้าวโพดลงไปคลุกให้ทั่วขากบ ให้ขากบแห้ง จากนั้นจึงเตรียมนำลงไปทอด
  4. เริ่มการทอด โดยตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน โดยใช้ไฟอ่อน ปริมาณน่้ำมันให้ท่วมเนื้อกบ นำเนื้อกบลงไปทอด พร้อมเศษของกระเทียมที่เหลือด้วย เมื่อกระเทียมเหลืองสุกก็ให้ช้อนออกมาพักให้เย็น จากนั้นสังเกตุเนื้อกบว่าเริ่มสุกแล้ว ก็ให้นำขึ้นมาจากกระทะ และพักให้เย็นก่อน
  5. จากนั้นเร่งไฟในกระทะให้แรงขึ้น และนำขากบลงไปทอดซ้ำ กบจะเหลืองกรอบ น่ารับประทาน เมื่อกบเหลืองกรอบจนพอใจแล้ว ก็นำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  6. จัดใส่จาน แต่งหน้าจานด้วย ผักชี และ แตงกวา ทานคู่กับซอสพริก ตามใจชอบ
เคล็ดลับการทำกบทอดกระเทียมพริกไทย
  • เนื้อกบ ให้เลือกเอาส่วนขา เนื่องจากส่วนขาจะมีเนื้อมากหน่อย และทานง่ายเหมือนปีกไก่
  • การเลือกเนื้อกบ ให้เลือกเนื้อกบที่สดๆ ขนาดใหญ่ การสังเกตุกบสดๆ ให้ดูที่สี จะต้องออกสีชมพู เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นเน่า หรือ มีสีคล้ำ
  • การหมักเนื้อกบ นั้น หมัก 2 รอบ โดย รอบแรก หมักเฉพาะซอสปรุงรส น้ำตาล และ ซอสน้ำมันหอย เพื่อให้ซอสเข้าเนื้อก่อน จึงหมักด้วยกระเทียมและพริกไทย การเลือกวิธีการหมักอย่างนี้ เนื่องจาก หากใส่กระเทียมพริกไทยลงไปเลย พริกไทยและกระเทียมจะดูดซอสและ รสชาติจะไม่เข้าเนื้อ ทำให้ไม่ได้รสชาติที่อร่อย
  • เทคนิคการทอด ให้ทอด 2 ครั้ง โดยครั้งแรกทอดด้วยไฟอ่อน ต้องการให้เนื้อกบสุก ครั้งที่สอง ให้เร่งไฟให้แรงขึ้น เพื่อให้ผิวภายนอกของกบมีความกรอบ
  • ปริมาณน้ำมันที่ใช้ ให้ท่วมเนื้อกบ และ ต้องเลือกใช้น้ำมันใหม่ ไม่แนะนำ ให้เอาน้ำมันเก่ามาใช้ เนื่องจาก ไม่ดีต่อสุขภาพ และ ที่สำคัญ น้ำมันเก่า จะมีกลิ่นของอาหารทอดก่อนหน้านี้ ทำให้เสียรสชาติของอาหาร ไป
มาดูวิธีทำกันเลย

16. ไก่ย่างเขาสวนกวาง

ไก่ย่างเขาสวนกวาง สูตรไก่ย่างเข้าสวนกวาง วิธีทำไก่ย่างเขาสวนกวาง การหมักไก่
อาหารไทย เมนูอาหารยอดนิยมวันนี้ เสนอ ไก่ย่าง ปิ้งไก่สูตรเขาสวนกวาง ที่ขึ้นชื่อเลืองลือไปไกล ความอร่อยของไก่ย่างเขาสวนกวาง คือ หนักกรอบ เนื้อนุ่ม ไม่มันมากเกินไป และ เนื้อไก่ มีรสชาติแบบไม่เหมือนใคร อยากทำไก่ย่างเขาสวนกวางขาย ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำ เรานำเสนอ ทั้งหมดทุกขั้นตอนอย่างละเอียด สูตรไก่ย่างเขาสวนกวาง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูไก่
ส่วนผสมสำหรับทำไก่ย่างเขาสวนกวาง
  • ไก่บ้าน ไก่สาวขนาด 7 ขีด
  • ขิง 1 ขีด
  • กระเทียม 1 ขีด
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ
  • ซอสดำ 1 ช้อนโต้ะ
  • พริกไทยเม็ดป่น 2 ช้อนโต้ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลปี๊บสำหรับน้ำจิ้ม 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนโต้ะ
  • ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำไก่ย่างเขาสวนกวาง
  • เริ่มจากหมักไก่ โดย เอาขิงและกระเทียมบดละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ เกลือ ซอสปรุงรส ซอสดำ พริกไทยป่น ผสมให้น้ำหมักละลายเข้ากัน จากนั้นนำเนื้อไก่ลงไปคลุกหมักให้ทั่วเข้าเนื้อไก่ หมักทิ้งไว้ 1 คืน
  • เตรียมน้ำจิ้ม โดย ผสม น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก พริกป่น และ ซีอิ้วขาว นำไปเคี้ยวให้ละลายเข้ากัน พักให้เย็นก้จะได้ น้ำจิ้มสูตรมะขามเปียก หวานอมเปรี้ยว อร่อยๆ
  • เริ่มการย่างไก่ ด้วย การเตรียมไฟ ให้ความร้อนปานกลาง ถ่านไฟที่ใช้ย่างไก่ ไม่ต้องอยู่ใกล้ไก่มาก เพราะความร้อนจะทำให้หนังไก่ไหม้ก่อน
  • นำไก่ลงไปย่างบนตะแกรง กลับด้านไก่ ทุกๆ 2 นาที และทาน้ำมันพืชที่หนังไก่ทุกครั้งที่กลับไก่ ใช้เวลาย่าง 45 นาที หากได้ความร้อนที่เหมาะสม
  • เมื่อได้ไก่ย่างที่สุกพร้อมแล้ว สับเนื้อไก่ใส่จาน เสริฟคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด เหมาะสำหรับกินกับข้าวเหนียว ส้มตำ ต้มแซ่บ
เคล็ดลับการทำไก่ย่างเขาสวนกวาง
  • ไก่สำหรับนำมาทำไก่ย่าง ใช้ไก่ขนาด 7 ขีด ขนาดของไก่ไม่เล็ก และ ไม่ใหญ่เกินไป ขนาดพอดีกิน โดยให้เลือกไก่ที่สดใหม่ เทคนิคการเลือกไก่ คือ ต้องไก้สีของไก่เหลือง ขาว เนื้อแน่น หนังตึง ไม่มีสีคล้ำ และ ไม่มีกลิ่นเน่า
  • ไก่ที่ได้มาต้องล้างให้สะอาด อย่าให้มีเลือดเหลือ และ ขนที่ตัวไก่เหลือ จะทำให้อาหารไม่อร่อย
  • ไฟสำหรับการย่างไก่ เป็นสิ่งที่ยากสำหรับเมนูนี้ ความร้อนที่เหมาะสมต้องเป็นไฟปานกลาง และ เทคนิคการย่าง คือ ต้องกลับไก่ทุก 2 นาที อย่าทิ้งไว้นานเกินไป ไก่ย่างจะไม่สุกพร้อมกันทั้ง 2 ด้าน
  • การหมักไก่ ส่วนผสมสำคัญ ต้องทิ้งเวลาหมักให้เข้าเนื้อ แต่หมักนานเกินไปไม่ได้ เพราะ กระเทียมที่ใช้ในการหมักไก่ จะเปลี่ยนรสชาติเป็นรสเปรี้ยว
  • การทำให้ไก่ย่าง หนังกรอบ คือ การใช้น้ำมันพืชทาที่หนังไก่ ความร้อนของน้ำมันพืช จะช่วยให้หนังไก่กรอบ เหมือนการถูกทอดด้วยน้ำมัน
มาดูวิธีทำกันเลย



15. แกงเห็ดเผาะใส่ใบย่านาง

วิธีทำแกงเห็ดเผาะใส่ใบย่านาง อาหารไทย เมนูแกง สำหรับช่วงฤดูฝน เป็นช่วงที่ เห็ดเผาะและผักหวานป่า ออกผลผลิตมาก เห็ดเผาะทำอะไรกินได้บ้าง มีผักหวานป่าทำอะไรกินดี เมนูเห็ดเผาะ ง่ายๆ
แกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน อาหารไทย อาหารอีสาน เมนูแกง
อาหารยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารพื้นบ้าน เมนูแกง สำหรับช่วงต้นฝน คือ แกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน อาหารที่รสชาติอร่อย ทานกับข้าวเหนียว มีส่วนผสมของ เห็ดเผาะ ผักหวาน ไข่มดแดง ผักติ้ว ใบย่านาง ปรุงรสแกงให้กลมกล่อม ได้ อาหารแสนอร่อย สำหรับวันนี้ เคล็ดลับการทำแกงเผ็ดเผาะใส่ผักหวาน อยู่ที่เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ
แกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน อาหารไทย เมนูเห็ด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร
ส่วนผสมสำหรับทำแกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน
  • ผักหวาน 1 กำ
  • เก็ดเผาะ 1 จาน
  • ผักติ้ว 1 จาน
  • ใบย่านาง 1 จาน
  • ข้าวเบือ 2 ช้อนโต้ะ
  • ไข่มดแดง 1 จาน
  • พริกสดบด 1 ช้อนโต้ะ
  • ตะไคร้ 1 ต้น หั่นเป็นท่อนพอคำ
  • หอมแดงบุบ 2 หัว
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำปลาร้า 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำแกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน
  • เตรียมผักหวานและผักติ้ว โดย เด็ดเอาเฉพาะใบ จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด เตรียมนำมาทำแกง
  • เตรียมน้ำแกงใบย่านาง โดยเอาน้ำเปล่ามาคั้นเอาน้ำของใบย่านาง จะได้น้ำสีเขียวๆ จากนั้น กรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด
  • ตั้งหม้อ ต้มน้ำใบย่านาง ให้เดือด จากนั้นใส่ หอมแดง และ ตะไคร้ ลงไปต้ม ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า และ น้ำตาล ชิมรสให้ได้ตามใจ
  • ใส่เห็ดเผาะลงไปต้ม เมื่อเห็ดสุก จึงใส่ ผักหวาน ผักติ้ว และ ไข่มดแดงลงไป
  • ขั้นตอนสุดท้ายใส่ข้าวเบือลงไป ต้มให้เหนียว ก็สามารถเสริฟใส่ชาม รับประทานได้
เคล็ดลับการทำแกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน
  1. ผักหวานให้เลือกใช้ผักหวานป่า เนื่องจากผักหวานป่าจะ อร่อย ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเหมือนผักหวานบ้าน การรับประทานผักหวานป่านั้น ให้ทานให้หมดเลย ไม่ควรเป็นค้างคืน เพราะผักหวานจะเฉา และ ไม่สามารถรับประทานได้
  2. ผักติ้ว ให้เลือกผักติ้วอ่อน โดยการสังเกตุผักติ้วอ่อน คือ ใบจะออกสีแดงน้ำตาล หากใบมีสีเขียวแสดงว่าใบแก่แล้วไม่น่ารับประทาน
  3. เห็ดเผาะ ให้เลือกใช้เห็ดเผาะป่า สีดำ ขนาดพอดี โดย ให้ล้างให้สะอาด เพราะ คราบดินที่เห็ดมีมาก เมื่อได้มาแล้ว ล้างให้สะอาก จากนั้นนำมาต้มก่อน จึงนำมาทำอาหาร
  4. ไข่มดแดง ไม่ควรเก็บไข่มดแดงค้างคืน เมื่อได้ไข่มดแดงมาแล้ว ให้นำมาทำอาหารเลย จะได้รสชาติที่อร่อยกว่า โดยให้ล้างน้ำให้สะอาดก่อนนำมารับประทาน
  5. ข้าวเบือ คือ การนำเอาข้าวสารข้าวเหนียว มาแช่น้ำก่อน 1 คืน และนำมาบดเอาแป้งจากข้าวเหนียว นำมาใส่แกง จะช่วยให้แกงมีความเหนียว และ เพิ่มความมันให้กับแกงทำให้น่ารับประทานมากขึ้น
  6. น้ำใบย่านาง เมื่อคั้นได้น้ำแล้ว อย่าลืมกรองเอาเศษสกปรกออก อย่าให้เจือปนสิ่งสกปรก
  7. สำหรับคนที่ชอบหน่อไม้ สามารถใส่หน่อไม้ลงไปด้วยได้ โดบให้เลือกใช้หน่อไม้อ่อน และ ต้มให้นุ่มก่อนนำมาใส่แกง
มาดูวิธีทำกันเลย


14. น้ำพริกปลาร้า

น้ำพริกปลาร้า อาหารไทย เมนูปลา น้ำพริก
สูตรอาหาร เมนูอาหาร สำหรับวันนี้ ขอนำเสนออาหารยอดนิยม อาหารจากปลาร้า เป็น เมนูอาหารพื้นบ้าน แบบง่ายๆ คือ น้ำพริกปลาร้า เคล็ดลับการทำน้ำพริกปลาร้า อยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ วิธีการปรุงรสชาติ อาหารอีสาน เมนูปลา สำหรับกินกับผักสด และ ไข่ต้ม สูตรน้ำพริกปลาร้า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูอาหารคลีน
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกปลาร้า
  • น้ำปลาร้า 5 ช้อนโต้ะ
  • เนื้อปลาช่อนสับ 10 ช้อนโต้ะ
  • พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
  • กระเทียม 4 ปลีบ
  • หอมหัวแดง 4 หัว
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • ผักสด สำหรับเป็นผักเคียงทานกับน้ำพริกปลาร้า เช่น แตงกวา มะเขือ และ ผักกะหล่ำปลี เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกปลาร้า
  1. เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบก่อน นำปลาร้าไปต้มให้สุกก่อน จากนั้นนำเนื้อปลาช่อนไปลวกให้สุก และ นำวัตถุดิบมาพักให้เย็นก่อน เพื่อเตรียมนำมาทำน้ำพริก
  2. เริ่มการทำน้ำพริก โดย เตรียมคร จากนั้น ใส่ กระเทียม พริกขี้หนูสวน ไป โขรกให้ละเอียด จากนั้น ใส่หอมหัวแดง ลงไปโขรก โขรกให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และ น้ำมะนาว จากนั้นใส่ ปลาร้า และ เนื้อปลาช่อนลงก ลงไปในโขรก คลุกเคล้าให้เข้ากัน และ ชิมรสชาติ เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำพริกปลาร้าแสนอร่อยแล้ว
  4. เสริฟน้ำพริก ใส่ถ้วยน้ำพริก โรยหน้าดัวยผักชี และ ทานคู่กับผักสดๆ ข้าวเหนียว และ ไข่ต้ม
เคล็ดลับการทำน้ำพริกปลาร้า
  • การเลือกปลาร้า ให้เลือกปลาร้าที่ตัวโตๆ จะได้มีเนื้อเยอะ น้ำปลาร้าจากปลาระดี่ มีรสชาติที่อร่อยที่สุด
  • การเลือกปลาช่อน ให้เลือกปลาช่อนที่สดๆ เทคนิคการเลือกปลาช่อน ดูที่เหงือกปลาต้องมีสีแดงสด ลักษณะของตัวปลาสมบูรณ์ เนื้อปลาแน่น ไม่มีกลิ่นเน่า และ ขอดเกล็ดปลาให้เรียบร้อย
  • เทคการเตรียมอาหารประเภทเนื้อปลา การล้างปลา จัดเป็นเคล็ดลับความอร่อย ต้องล้างปลาให้สะอาด ไม่มีเมือกและเลือดปลาตกค้าง จะทำให้เนื้อปลาไม่คาว เทคนิคการล้างปลา ให้ใช้แป้งมันถูที่ตัวปลา และ ล้างน้ำออก แป้งมันจะจับเมือกปลาได้ดี จากนั้นให้ใช้เกลือขัดที่ตัวปลาอีกครั้งหนึ่ง
  • การลวกเนื้อปลา ให้ใช้น้ำเดือดๆ และน้ำที่ลวกปลาแล้วให้ทิ้งไปเลย ไม่นำกลับมาปรุงอาหาร
  • การคั่ว กระเทียม หอมแดง และ พริก เพื่อให้ ได้กลิ่นหอมของ กระเทียม หอมแดง และ พริก ซึ่ง เมื่อวัตถุดิบเหล่านี้ดดนความร้อนจะทำให้เกิดความหอมและความหวาน ลดกลิ่นเหม็นเขียวของอาหาร
  • เมนูนี้ไม่ใช้กะปิ เนื่องจากปลาร้ามีรสเค็มอยู่แล้ว หากใส่กะปิลงไปด้วยจะทำให้อาหารเค็มเกินไป ไม่เหมาะสำหรับนำมาทำน้ำพริกเมนูนี้
  • สำหรับเนื้อปลา ท่านสามารถเลือกใช้เนื้อปลาชนิดอื่นได้แทน ตามความเหมาะสมของท้องถิ่นของท่าน โดยเทคนิคการเตรียมเนื้อปลา และ การเลือกปลา นั้นก็เหมือนเทคนิคการเตรียมเนื้อปลาช่อน
มาดูวิธีการทำกันเลย

ที่มา: https://nlovecooking.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2/
https://www.youtube.com/watch?v=twD0AAwFm8g
13.ลาบเป็ด
ลาบเป็ด

         มื้อเที่ยงก็จะแซ่บ ๆ หน่อย ชวนทำลาบเป็ด สูตรอาหารไทยใส่หนังและเครื่องในด้วย ถ้าได้กินกับส้มตำปูปลาร้าและไก่ปิ้งยิ่งเด็ด อ้อ... อย่าลืมตักข้าวสวยหรือข้าวเหนียวด้วยนะ

ส่วนผสม ลาบเป็ด     
      • เป็ดเทศ
      • น้ำร้อน 1/2 ทัพพี
      • หอมแดง 
      • ผักชีฝรั่ง 
      • ต้นหอม 
      • น้ำปลา 
      • น้ำมะนาว 
      • พริกป่น
      • ข้าวคั่ว
      • พริกสดหรือพริกแห้งทอด
      • ​ใบ​สะระแหน่

วิธีทำลาบเป็ด


1. เอาเนื้อเป็นมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ เอาหนังด้วยน่ะ จากนั้นนำมาลวก ตอนลวกอย่าใส่น้ำเยอะ ให้กะพอดีว่า คลุกคลิก พอเห็นเนื้อเริ่มสุกแล้ว ให้ตักออก อย่าลวกนาน ไม่งั้นเนื้อจะแข็ง เวลามาปรุง จะไม่ค่อยดูดซึมเครื่องปรุง หากท่านใดชอบเครื่องใน ก็เอามาหั้นเป็นชิ้น แล้วเอาไปลวกให้สุก
2. ซอยต้นหอม ใบมะกรูด และ หั่นหัวหอมเป็นแว่นๆ
3. นำเนื้อเป็ดมาใส่หม้อ แล้วใส่พริกป่น ข้าวคั่ว บีบมะนาวลงไป ตามด้วยน้ำปลา ผงชูรส คนให้เข้ากัน แล้วชิมรสตามใจชอบ จากนั้นใส่ต้นหอมซอย ใบมะกรูด หัวหอมลงไปคนให้เข้ากัน ชิมรสอีกครั้งหนึ่ง หากใครไม่ชอบแบบแห้งก็ใส่น้ำที่เราใช้ลวกเป็ดนั่นแหละ
4. เสร็จแล้ว เป็นอันว่าเราได้ลาบเป็ด อุดร ขอนแก่น ตามแต่จะเรียก สุดยอดของความอร่อย


มาดูวิธีการทำกัเลย

ที่มา: https://cooking.kapook.com/view190478.html
https://cooking.kapook.com/view190478.html
https://www.youtube.com/watch?v=0jXBciAVTIg

        45.น้ำพริกแมงดา       มาทำความรู้จักกับสัตว์ที่มีชื่อว่า ” แมงดา ”  แมงดาที่คนนิยมนำมาทำอาหาร คือ แมงดานา เป็นสัตว์ที่มีกลิ...